Fix Hidden file แก้ไขไฟล์ซ่อนด้วยตัวเอง

how to mark  file .bat  fix hidden file

step 1  :  create file  notepad

step 2  :  input code this 

               @echo

                g:

                attrib -s -h -r /s /d

                pause

step 3 :  Save file and input  .bat  after file

step 4 :  run file

คุยกันก่อนครับ  หลายๆคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ผมว่าเกือบทุกคนคงเคยเจอนะครับว่า เวลาใช้ เครื่องบันทึกข้อมูลภายนอก เช่น แฟลชไดว์  หรือ Extranal harddisk ว่าอยู่ไฟล์หายไปไหนทั้งๆที่หากดูพื้นที่ของอุปกรณ์ก็ถูกใช้ไปบางส่วนแล้วแต่มองไม่เห็นไฟล์ คือจริงๆแล้วมันไม่ได้หายครับมันแค่ถูกซ่อนเอาไว้ จากไวรัสที่เราเรียกกันติดปากว่า ไวรัสซ่อนไฟล์ครับ  หลายๆครั้งที่ผมถูกถามและต้องไปแก้ไขให้เอามาแสดงให้หลายๆคน ผมก็ไม่ได้ใช้โปรแกรมอะไรนะครับเพียงแค่ใช้ command line กับคำสั่ง 4-5 ตัว ครับแล้วก็บอกหลายๆคนที่มาถามว่าต้องเขียนยังไง แต่ก็เป็นเพียงบางท่านที่สามารถทำเองได้บ้าง แต่บางคนที่ไม่ค่อยสันทัดก็จะทำไม่ค่อยได้  ผมก็เลยคิดว่าทำไงดีเอาเป็นวิธีง่ายๆให้เค้าใช้ล่ะกันครับ คือเขียน bat file ให้เค้าใช้ ถ้ามีการแก้ไขก็ง่ายๆครับเค้าจะได้ทำเองได้ เราก็จะสบายขึ้น

หน้าตางมันก็จะทำนองนี้ครับ เห็นแต่ Shortcus ตัวนึงแต่ไฟล์หายไปไหนหมด

ผมแก้ง่ายๆด้วยการเขียน bat ไฟล์ ด้วย notepad ด้วยโค้ดด้านล่างนี้ครับ

@echo

d:  (ตรงนี้ให้เราดูว่าแฟลชไดว์เราเป็นชื่อ ไดว์อะไรก็เปลี่ยนตามนั้นเช่น g:  f:  หรือ g:)

attrib -s -h -r /s /d  (ตรงนี้เป็นคำสั่งให้ไฟล์ของเราที่ซ่อนไว้แสดงออกมาก)

pause (ตรงนี้ถ้าเขียนไว้มันจะค้างหน้า command ดำไว้ให้เราดูครับถ้าเอาออกมันจะไม่แสดงครับ)

เขียนจริงก็แบบนี้ครับ จากนั้นก็บันทึกในที่นี้ผมต้องเป็น fix_hidden.bat ให้ใส่นามสกุล .bat ด้วยนะครับ

จากนั้นก็ถ้าเจออุปกรณ์ที่มีอาการ ก็ทำการเปลี่ยนไดว์ให้เรียบร้อยแล้วก็ดับเบิ้ลคลิกได้เลยครับ คราวนี้
ไฟล์เราก็จะกลับมาแล้วครับ

ใช้ Textbox ใน vb2010 บวกเลขไม่ได้

คุยกันก่อนครับ  เคยไหมครับที่เราจะเอาค่าใน Textbox มาทำการบวก ลบ คูณ หารแล้วไม่ได้ บอกได้เลยผมนี้เคยมากับตัว ตอนแรกไม่รู้ครับเอามาบวกกัน ผลออกมา เฮ้ย อะไรว่ะน่ะ คือลืมนึกไปครับว่า คอนโทรล Textbox ที่เอามาบวกกันไปใช้คุณสมบัติ Properties ชื่อว่า Text ก็มันบอกอยู่แล้วว่า Text  5555 พึ่งมานึกออก ลองทดสอบเป็นการบวกนะครับ

ตอนแรกก็เขียนโค้ดธรรมดาปกติแบบนี้ครับ

                       Textbox3.text = Textbox2.text + Textbox1.text

ผมใส่ข้อมูลในช่อง Textbox1 = 30
ใส่ข้อมูลในช่อง Textbox2 = 20
ผลลัพธ์ออกมาที่ช่อง Textbox3 = 2030  ซะงั้น

แต่การแก้ไม่ยากครับ แค่ใช้ฟังก์ชั่นของ vb2010 ที่เค้ามีมาให้ครับแก้เป็นแบบนี้ครับ

คือใช้ ฟังก์ชั่น Int ครอบคอนโทรลของเราครับ

                               Textbox3.text = int(Textbox2.text) + int(Textbox1.text)

คราวนี้ก็ลองรันโปรแกรมทดสอบดูครับ

คราวนี้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถูกต้องครับนั่นหมายความว่า เราจะเอาคุณสมบัติ .Text ของ Textbox มาคำนวนเลยไม่ได้นะครับ ต้องการใช้ฟังก์ชั่นก่อนครับถึงจะได้ คราวนี้ในตัวอย่างเราใช้ Int ซึ่งก็คือ Integer คือจำนวนเต็มครับ ผมลัพธ์ที่ได้ก็จะเป็นจำนวนเต็ม แล้วถ้าต้องการเป็นทศนิยม เราจะใช้อะไร ก็ลองค้นๆดูมันก็มี Cdbl ครับ เขียนแบบนี้

                         Textbox3.text = cdbl(Textbox2.text) + cdbl(Textbox1.text)

คราวนี้เราจะได้การคำนวนแบบทศนิยมได้ละครับ

บทสรุปครับ  คุณสมบัติ .Text เป็นข้อความหรือ String ครับ เมื่อนำมาคำนวนตรงๆ มันจะเอามาต่อกัน หาต้องการคำนวนจริงๆ ต้องใช้ ฟังก์ชั่นช่วยครับ ถึงจะคำนวนได้ จะใช้ Int หรือ Cdbl ก็ได้ครับแล้วแต่ว่าจะเอาแบบมีทศนิยมหรือไม่มี เอาไปประยุกต์ใช้ครับ

ทุกอย่างที่เขียน เกิดจากการใช้งานจริงทั้งหมดบางอย่างอาจมีวิธีที่ดีกว่า ให้ถือว่าเป็นแนวทางหนึ่งนะครับ อย่าเชื่อจนไม่คิดว่าจะมีวิธีอื่นอีก ขอบพระคุณที่เข้ามาอ่านครับ

การใส่รหัสป้องกันการเปิดไฟล์เวิร์ด Lock Word 2013

คุยกันก่อน เมื่อคราวที่แล้วผมได้เขียนเกี่ยวกับการป้องกันฐานข้อมูล Access ด้วยการกำหนดรหัสผ่านฐานข้อมูลไปแล้ว ก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าจริงๆแล้ว โปรแกรมในกลุ่ม Microsoft Office ตัวอื่นๆก็สามารถกำหนดรหัสผ่านในการเปิดไฟล์ได้ด้วยครับ ก็เลยนำเอามาบอกกันซึ่งก็ทำได้ไม่ยากเลยครับใช้เวลาเพียงน้อยนิดแต่สามารถป้องกันไฟล์งานสำคัญของเราได้เป็นอย่างดีครับ เริ่มกันเลย

1. ผมจะใช้กำหนดรหัสผ่าน ไฟล์งานโปรแกรมเวิร์ด Word ครับที่เราใช้กันพิมพ์งานกันทั่วไปนี่แหละครับผมจะใช้เวอร์ชั่น Microsoft Word 2013 นะครับแต่จริงๆแล้วเวอร์ชั่นไหนๆก็คล้ายๆกันครับไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

หลังจากที่เราได้สร้างไฟล์ด้วยโปรแกรมเวิร์ดของเราเรียบร้อยแล้วนะครับเราก็เริ่มตั้งรหัสผ่านได้เลย ถ้าถามว่าต้องบันทึกหรือ Save ก่อนไหม บอกได้เลยว่าจะบันทึกก่อนก็ได้ หรือ ตั้งรหัสผ่านก่อนก็ได้ครับแต่ถ้าเอาแบบรอบครอบหน่อยก็ไปบันทึกก่อนนะครับ

2. หลังจากบันทึกแล้วก็มาที่เมนู Fileหรือ ไฟล์ ครับก็จะเจอกับหน้านี้ครับ ดูตรงข้อมูลครับ ป้องกันเอกสารที่มันเป็นรูปแม่กุญแจนั่นแหละครับที่บอกอย่างนี้เพราะบางเครื่องตั้งไว้เป็นภาษาที่ต่างกันครับ

3. หลังจากที่เราเลือกที่้ ป้องกันเอกสารแล้ว ก็จะมีเมนูเพิ่มเติมครับ ให้เราเลือกที่ เข้ารหัสลับด้วยรหัสผ่าน หรือรูปแม่กุญแจอีกแบบเดิมครับ

4. จากนั้นโปรแกรมจะให้เราทำการตั้งรหัสผ่าน

 และก็จะขึ้นมาให้เราใส่รหัสผ่านตัวที่เราใส่ไปอีกครั้งเป็นการยืนยันว่าจะใส่รหัสผ่านตัวนี้ครับ

5. จากนั้นลองปิดโปรแกรมแล้วเปิดขึ้นมาก็จะพบว่าเราต้องใส่รหัสผ่านก่อนเข้าใช้งานครับ แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

บทสรุป  ในชุดโปรแกรม Office ของ Microsoft นอกจากโปรแกรมฐานข้อมูล Access เราก็สามารถตั้งรหัสผ่านการเข้าใช้งานโปรแกรม Word ได้อีกด้วยครับ

มาใส่กุญแจรักษาความปลอดภัยให้กับฐานข้อมูล Access กัน

คุยกันก่อนครับ  หลายๆคนคงจะเคยใช้โปรแกรมฐานข้อมูล Access กันมาบ้างแล้วนะครับ ซึ่งก็แน่นอนครับว่าโครงสร้างฐานข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญครับเพราะเกิดจากการออกแบบกันมาและที่สำคัญสุดๆก็คือข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในนั้นครับ เอาแค่ ข้อมูลชื่อผู้ใช้กับรหัสผ่าน เข้าโปรแกรมก็เพียงพอต่อความอันตรายแล้วครับถ้าใครมาเปิดดูได้ก็สบายเค้าเลย เข้าโปรแกรมเราได้สบายใจ วันนี้ผมก็เลยจะเอาวิธีการป้องกันส่วนนี้มาฝากกันครับ พูดง่ายๆก็คือใส่กุญแจให้กับฐานข้อมูล Access กันครับ

1. เริ่มต้นครับให้เราเปิดโปรแกรม Access ขึ้นมาก่อนนะครับ(อย่าเปิดไฟล์เราโดยตรงนะครับ) ในที่นี้ผมใช้ Access2013 นะครับ

2. ทำการคลิกที่ Open Other File ครับ จากนั้นก็เลือกที่ Open  แล้วก็เลือกการเปิดจาก Computer แล้วทำการเลือกที่ Browse เพื่อหาไฟล์ฐานข้อมูลที่เราบันทึกไว้ในเครื่องของเรา

3. หลังจากเราทำการคลิกที่ปุ่ม Browse โปรแกรมจะให้เราเลือกไฟล์ฐานข้อมูลตรงนี้ก็อย่าพึ่งไปดับเบิ้ลคลิกนะครับ หรืออย่าพึ่ง คลิก Open เลยนะครับให้เลือกคลิกเลือกไฟล์แล้วไปคลิกที่ลูกศรชี้ลงนะครับ เลือก Open Exclusive ครับ

4. โปรแกรมก็จะเปิดงานของเราขึ้นมาตอนนี้ให้เลือกที่ File ครับ

5.  ตรงนี้เราจะอยู่ที่ Info ครับ ก็เลือก Encrypt with Password ครับ เพื่อทำการใส่รหัสผ่านให้กับฐานข้อมูลของเราครับ

6. เวลาใส่ฐานข้อมูลก็ใส่ 2 ครั้งเหมือนระบบอื่นๆทั่วไปครับเป็นการยืนยัน เสร็จแล้วก็จดไว้ก็ดีนะครับเผื่อลืม 5555

7. หลังจากใส่รหัสผ่านเรียบร้อยแล้วคราวนี้ก็ลองเปิดไฟล์โปรแกรมฐานข้อมูลของเราแบบปกติครับจะเปิดจากการดับเบิ้ลคลิกหรือเปิดผ่านโปรแกรมก็แล้วแต่มันจะถามรหัสผ่านก่อนครับ

บทสรุป โปรแกรม Access สามารถใส่รหัสผ่านฐานข้อมูลได้ครับ การกำหนดรหัสผ่านต้องเปิดจาก การOpen Exclusive จึงจะใส่ได้ครับ

กำหนดให้ผู้ใช้ไม่สามารถขยายฟอร์มได้ vb2010

คุยกันก่อน  สำหรับใครที่ต้องการเขียนโปรแกรมแล้วไม่ได้กำหนดให้ฟอร์ม WindowState เป็น Maximized คือกำหนดให้มีขนาดเท่าที่สร้างฟอร์ม หลังจากสร้างแล้วหลังจากนำไปใช้ปรากฏว่า ผู้ใช้สามารถเอาเมาส์มาขยายฟอร์มได้ ซึ่งอาจทำโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ฟอร์มมีการหดขยายได้  บ้างก็หดเข้าไปจนคอนโทรลต่างๆ หายไปหมด

หดจนเป็นแบบนี้

ปัญหาแบบนี้เราสามารถแก้ไขได้ง่ายๆด้วยการเขียนโค้ดง่ายครับ คือให้เราเขียนโค้ดที่ฟอร์มโหลดครับแบบนี้

จากโค้ดนะครับ
     me.maxinumsize  = new size (380,419)  อันนี้อธิบายจากโค้ดคือการกำหนดขนาดใหญ่สุดของ ฟอร์มครับ ตัวเลขตัวแรกคือความกว้างครับ ตัวหลังคือความสูง ในทำนองเดียวกันเราต้องกำหนดขนาดเล็กสุดของฟอร์มด้วยครับ  me.minimumsize  = new size (380,419)  อันนี้คือการกำหนดขนาดเล็กสุดของฟอร์มครับ หรืออีกวิธีครับ คือไม่ต้องมาเขียนโค้ดสำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบพิมพ์ก็ง่ายๆครับไปกำหนดที่คุณสมบัติของฟอร์มครับ

แบบนี้ก็ง่ายเลยครับ
บทสรุป เราสามารถกำหนดฟอร์มไม่ให้มีการยืดหรือหดโดยผู้ใช้ได้ด้วยคุณสมบัติ Minimumsize กับ Maximumsize ครับ

การใช้ MaskedTextbox กำหนดรูปแบบการใส่ข้อมูล vb2010

คุยกันก่อน  สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องมือในการช่วยให้การกรอกข้อมูลเป็นไปตามรูปแบบที่ต้องการ เช่น ตามรูปแบบหมายเลขบัตรประชาชร  9-9999-99999-99-9 หรือ หมายเลขโทรศัพท์
0-2123-4567-89  โดยการกำหนดรูปแบบนั้นมีประโยชน์ในหลายๆด้านครับเช่น จะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบ และเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานโปรแกรมกรอกได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยใน vb2010 ก็มีเครื่องมือให้ใช้ได้อย่างสบายเลยครับ โดยมีชื่อว่า MaskedTextBox ครับ

1. สร้างคอนโทรล MaskedTextbox โดยการสร้างฟอร์มและเอาคอนโทรล MaskedTextbox มาวาดบนฟอร์ม

2. กำหนดคุณสมบัติ หลังจากเราเอาคอนโทรล maskedTextbox มาวางบนฟอร์มเรียบร้อยแล้วเราก็ไปกำหนดคุณสมบัติที่ Mask ครับ โดยเราสามารถเลือกจาก ปุ่มด้านหลัง ... ก็ได้หรือเขียนการกำหนดลงไปเองเลยก็ได้ครับ

3. เราสามารถเลือกจาก Input Mask ที่มีมาให้ได้ทันที

4. หรือเราจะสามารถเขียนรูปแบบลงไปตรงๆเลยก็ได้ครับ เช่น ผมต้องการจัดรูปแบบหมายเลขบัตรประชาชน ผมก็จะพิมพ์ตรง Mask ไปว่า  0-0000-00000-00-0 ครับแบบนี้ครับ

จากนั้นให้สังเกตุที่ฟอร์มที่คอนโทรลอยู่จะปรากฏรูปแบบการกำหนดที่เราใส่ไว้ จากนั้นเราก็จะสามารถใส่ข้อมูลไปตามรูปแบบที่กำหนดได้เลยครับ

บทสรุป  หากเราต้องการใส่ข้อมูลให้ได้รูปแบบที่แน่นอนเป็นการกรองข้อมูลและช่วยให้ผู้ใช้โปรแกรมใส่ข้อมูลได้ถูกต้อง Vb2010 มีคอนโทรลที่สามารถทำได้คือ MaskedTextbox

การทำให้ Textbox ใส่ได้เฉพาะตัวเลขใน vb2010

คุยกันก่อนครับ  วันนี้ผมจะมาเขียนโค้ดที่จะกำหนดให้ Textbox ของ vb2010 นั้นสามารถใส่ได้เฉพาะตัวเลขครับ ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นตัวเลขเท่านั้น ก็ให้นึกถึงว่าเวลาเขียนโปรแกรมเพื่อรับค่า  เบอร์โทรศัพท์   ราคาสินค้า    จำนวนสิ่งของ  หรือ  น้ำหนัก  ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมานั้นเป็นจำนวนตัวเลข โดยหากคนเขียนโปรแกรมจะทำการกรองข้อมูลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องเสมอ ก็จำเป็นต้องมีการเขียนโค้ดควบคุมครับ

เริ่มต้นสร้างโปรแกรม โดยการใช้ Label 1 ตัวครับกำหนดให้ คุณสมบัติ Text="กรอกข้อมูลตัวเลข" และใช้ Textbox 1 ตัวครับ

จากนั้นทำการเขียนโค้ดโดยการดับเบิ้ลคลิกไปที่ Textbox และให้ทำการเขียนโปรแกรมที่เหตุการณ์ Keypress ครับ  ใช้การตรวจสอบคำสั่ง Select case ครับตรวจสอบการกดแป้นพิมพ์ e.Keychar โดยกำหนดเป็น Case 48 to 57 เป็นการตรวจสอบค่าของตัวเลข 0-9 โดย keyChar ของ 0-9 จะอยู่ที่ 48-57 แต่เราจะต้องเพิ่ม keyChar บางส่วนเข้าไปเช่น การลบหรือ Backspace จะเท่ากับ 8  การ Enter เท่ากับ 13 และ Delete จะเท่ากับ 46 ครับ  ทั้งนี้การกำหนด Case แล้วหากเรากดอักษรบนคีย์บอร์ด KeyChar ที่ได้รับไม่ได้อยู่ในช่วงของ Case ที่เรากำหนดมันก็จะ แสดงข้อความเตือน ว่า " กรุณาใส่ตัวเลขครับ"

ทำการทดสอบโปรแกรม โดยการใส่ตัวอักษร ภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษลงไปก็ได้ครับมันจะไม่ยอมให้กรอกครับพร้อมแสดงข้อความ " กรุณาใส่ตัวเลขครับ"

แต่หากเราใส่ตัวเลขเข้าไปก็จะสามารถใส่ได้ดั่งใจครับ

บทสรุป  ในการเขียนโปรแกรมตรวจสอบค่าของตัวอักษรที่ใส่เข้าไปนั้นสามารถตรวจสอบโดยใช้คำสั่ง Select Case และ ตรวจสอบ e.KeyChar ครับ โดยเลข  0-9 จะอยู่ที่ 48-57  ครับ